วันนี้ (22 ธ.ค.) สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต เปิดเผบาคาร่าออนไลน์ย ผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชนทั่วประเทศ จำนวนทั้งสิ้น 1,082 คน ท่ากลางสถานการณืที่มีการปล่อยข่าวลือ ข่าวปลอม หรือที่เรียกว่า เฟคนิวส์ กันบ่อยขึ้น โดยมีข้อความส่งต่อกันในกลุ่มแชตและโซเชียลมีเดียถูกแชร์ออกไปเป็นวงกว้าง
ทางกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
ได้ออกมาเตือนประชาชนว่าอย่าหลงเชื่ออย่างเด็ดขาด โดยสวนดุสิตโพลเผยว่า จากผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชน พบว่า ข่าวลือเรื่องล่าสุดที่ประชาชนได้ยิน 5 อันดับได้แก่ อันดับ1 ขึ้นภาษีผ้าอนามัย 64.34% อันดับ2 ยุบพรรคอนาคตใหม่ 29.25% อันดับ3 ขึ้นภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง 24.34% อันดับ4 ม็อบขับไล่รัฐบาล 17.74% และอันดับ5 ปรับครม. ยุบสภา 14.72%
ส่วนข่าวลือเรื่องที่ประชาชนเชื่อว่ามีมูลความจริงมากที่สุดได้แก่ อันดับ 1 ยุบพรรคอนาคตใหม่ 38.40% อันดับ 2 ขึ้นภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง 26.80% อันดับ 3 การย้ายพรรค ปรับเปลี่ยนครม. 18.79% อันดับ 4 ขึ้นภาษีผ้าอนามัย 16.18% และอันดับ 5 การออกมาประท้วงของประชาชน 12.58%
ทั้งนี้ จากการสำรวจ สิ่งที่ประชาชนคิดว่าควรทำเพื่อสยบข่าวลือ คือ อันดับ 1 มีสติ มีวิจารณญาณ ไม่หลงเชื่อง่าย 56.21% อันดับ 2 ตรวจสอบข่าว หาข้อมูลจากหลายๆ ที่ 28.97% และอันดับ 3 หยุดแชร์ หรือส่ง
ขณะที่สิ่งรัฐบาลควรทำ คือ อันดับ 1 จัดตั้งหน่วยงานพิเศษเพื่อดูแลเรื่องนี้โดยเฉพาะ 42.09% อันดับ 2 มีการตรวจสอบข่าวที่ถูกต้อง แม่นยำ และรีบออกมาชี้แจงทันที 38.90% และอันดับ 3 ติดตามจับกุมผู้ปล่อยข่าว มีบทลงโทษอย่างจริงจัง 24.66%
จากกรณีที่มีการเปิดโปงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับนักเรียนชายชั้นมัธยมศึกษาคนหนึ่ง ถูกเพื่อนนักเรียนด้วยกันปาดคอจนได้รับบาดเจ็บสาหัสภายในโรงเรียนแห่งหนึ่งของจ.ปทุมธานี และหลังเกิดเหตุทางโรงเรียนพยายามที่จะปิดเรื่องนี้ให้เงียบที่สุด เพราะเกรงจะกระทบต่อชื่อเสียง โดยล่าสุด เฟซบุ๊กเพจ Red Skull-addict ได้โพสต์ภาพเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว
เฟซบุ๊กเพจ Red Skull-addict ระบุว่า ‘เด็กนักเรียนทำร้ายร่างกายกันถือเป็นเรื่องใหญ่ระดับนึงเลยนะนั่น ไม่รู้คู่กรณีที่โดนทำร้ายไปแจ้งความไหม หรือทาง รร.ต้องการปิดข่าว เลยไม่ได้มีการดำเนินการทางกฎหมาย’
หลังจากที่ทางเพจออกมาแฉเรื่องดังกล่าว ก็มีผู้เข้าไปแสดงความคิดเห็นวิพากษ์วิจารณ์การกระทำของนักเรียนที่ก่อเหตุจำนวนมาก รวมถึงครูของทางโรงเรียนที่พยายามจะปิดข่าวนี้อีกด้วย อีกทั้งยังมีกระแสถามไถ่ถึงว่า เด็กนักเรียนที่ถูกปาดคอว่าได้เดินทางไปแจ้งความตามกฎหมายแล้วหรือไม่
จากเหตุการณ์ดังกล่าว มีผู้ใช้ทวิตเตอร์รายหนึ่ง นำภาพที่เป็นข้อความซึ่งอ้างว่าเป็นของนักเรียนผู้ก่อเหตุ ที่เจ้าตัวได้โพสต์ลงในไอจีสตอรี่มาทวิตจนมีผู้รีทวีตออกไปเป็นจำนวนมาก โดยข้อความที่ผู้ก่อเหตุเขียนระบุบางช่วงว่า ‘ใครจะโกรธจะรังเกียจเรื่องที่กูทำก็เอาเหอะนะ กูก็ห้ามไม่ได้อ่ะ แล้วก็ห้ามตัวเองไม่ค่อยได้ ใครจะยังไงก็แล้วแต่อ่ะ กูอยากรู้ว่า กูจะเหลือเพื่อนหรืออะไรไหม’
หนุ่มขับกระบะกลับจากงานเลี้ยงบริษัท ชนแท่งแบริเออร์ดับ
เมื่อเวลาประมาณ 01.30 น. ของวันนี้ (22 ธ.ค.) เกิดเหตุระกระบะชนแท่งแบริเออร์ ทำให้ผู้ขับขี่เสียชีวิตบนถนนเลียบมอเตอร์เวย์ (สาย 7 ตอนที่ 2) ขาเข้าพัทยา หมู่ 7 ต.หนองข้างคอก อ.เมือง จ.ชลบุรี
ในที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจพบร่าง นายสุริยา บรรพต อายุ 34 ปี พนักงานบริษัท หมิงไท่ อินดัสเตรียล (ประเทศไทย) จำกัด ในนิคมอุตสาหกรรรม อมตะซิตี้ นอนอยู่ที่พื้น เจ้าหน้าที่กู้ภัยพยายามช่วยกันปั๊มหัวใจยื้อชีวิต แต่นายสุริยาทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตในเวลาต่อมา
ใกล้ๆ กันเจ้าหน้าที่พบรถกระบะ ยี่ห้ออีซูซุ ดีแม็กซ์ สีขาว ของผู้ตาย สภาพด้านหน้าและด้านข้างพังยับเยิน ที่ขอบประตูด้านซ้ายมีรอยเลือดติดอยู่ ส่วนที่แท่งแบริเออร์มีรอยครูดเป็นทางยาว
ต่อมาภรรยาและญาติผู้ตายมาที่เกิดเหตุต่างร่ำไห้เสียใจ และเผยว่า ผู้ตายบอกเมื่อวานนี้ว่าอาจจะกลับดึกหน่อย เพราะที่บริษัทมีงานเลี้ยงปีใหม่ และอีกนิดเดียวจะถึงบ้านอยู่แล้ว คาดว่าคงเมาจากงานเลี้ยงมาและไม่ได้คาดเข็มขัดนิรภัยร่างจึงกระเด็นออกมา
ขณะที่ นายณัฎฐ์ รุ่งเรือง อายุ 33 ปี เจ้าของรถที่กล้องหน้ารถสามารถถ่ายภาพขณะเกิดเหตุเอาไว้ได้ เผยว่า ตนขับมาจะเข้าทางเบี่ยงออกทางคู่ขนาน มองกระจกหลังเห็นรถกระบะสีขาววิ่งมาด้วยความเร็วแซงซ้าย ตนจึงหักเบนขวานิดหน่อยเพราะเกรงว่าจะชนกัน จากนั้นรถคันดังกล่าวก็ขับเลยไป จังหวะนั้นมีรถพ่วง 18 ล้อวิ่งอยู่เลนซ้าย รถกระบะได้หักหลบแล้วเสียหลักจนพุ่งชนแท่งแบริเออร์บาคาร่าออนไลน์