ตร.ภูเก็ตเร่งหาเบาะแสชาวต่างชาติที่ก่อเหตุแทงหนุ่มเมืองผู้ดีได้รับบาดเจ็บ คาดปมปัญหาเรื่องชู้สาวเหตุคบซ้อน ก่อนเกิดเหตุนัดมาเจอที่ร้านอาหารในพื้นที่ต.วิชิต จากกรณีเมื่อเวลาประมาณ 19.00 น. วันที่ 1 พ.ค.62 ร.ต.อ.ชาตรี. ชูวิเชียร รองสว.(สอบสวน) ได้รับแจ้งเหตุชาวต่างชาติถูกแทงได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดที่บริเวณลานจอดรถหน้าอาหารแห่งหนึ่งใกล้สามแยกถนนขวาง ถ.เจ้าฟ้าตะวันตก ต.วิชิต อ.เมือง. จ.ภูเก็ต จึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ และเดินทางไปตรวจที่เกิดเหตุ
เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุ ได้รับแจ้งจากพนักงานว่า ผู้บาดเจ็บถูกนำส่ง รพ.สิริโรจน์ฯไปก่อนหน้า จึงได้เดินทางไปยังโรงพยาบาล
จากการสอบถามเบื้องต้น ทราบว่า ผู้ได้รับบาดเจ็บ อายุ 35 ปีสัญชาติอังกฤษ ถูกแทงด้วยของมีคมบริเวณหัวไหล่ข้างซ้าย 1 แผล และบริเวณลำตัวข้างซ้าย 1 แผล แพทย์ได้ให้การช่วยเหลือจนอาการพ้นขีดอันตราย จากการสอบสวน น.ส.สุดารัตน์ หารมา แฟนสาวของผู้บาดเจ็บ ทราบว่า เวลาประมาณ 18.30 น.ได้เดินทางมารับประทานที่ร้านดังกล่าว ขณะจอดรถและกำลังเดินเข้าไปที่ร้านได้มีคนร้ายเป็นชายวัยรุ่นชาวต่างชาติ สวมเสื้อแจ็คเก็ตสีดำ สวมหมวกไหมพรมถักสวมหมวกแก๊ปทับเข้ามาใช้อาวุธลักษณะคล้ายมีดเข้ามาแทงผู้บาดเจ็บ ถูกบริเวณหัวไหล่ข้างซ้าย 1 แผล และบริเวณลำตัวข้างซ้าย 1 แผล หลังเกิดเหตุคนร้ายได้วิ่งออกจากที่เกิดเหตุหลบหนีไป
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการติดตามตัวชายผู้ก่อเหตุ ส่วนสาเหตุเบื้องต้นนั้นคาดว่า น่าจะเกิดจากเรื่องชู้สาว โดยก่อนหน้านี้นางสุดารัตน์ยอมรับว่า ตนเองนั้นได้คบหากับชาวต่างชาติอีกราย ก่อนจะมาคบกับผู้บาดเจ็บ ซึ่งเป็นการคบซ้อนอีกคน และก่อนเกิดเหตุประมาณ 3 เดือน ผู้บาดเจ็บและชาวต่างชาติแฟนเก่าเคยมีการทะเลาะวิวาทและมีการชกต่อยกันมาแล้วครั้งหนึ่ง และล่าสุดก่อนเกิดเหตุชาวต่างชาติแฟนเก่าได้นัดให้ตนมาพบที่ร้านดังกล่าวและได้เกิดเหตุดังกล่าวขึ้น ซึ่งนางสุดารัตน์ฯ ยืนยันว่า ผู้ก่อเหตุไม่ใช่แฟนเก่า แต่อาจเป็นการจ้างวาน เพราะเป็นไปได้ว่าสาเหตุน่าจะมาจากเรื่องดังกล่าว
ขณะที่ พ.ต.อ.เสริมพันธุ์ ศิริคง รองผบก.ภ.จว.ภูเก็ต กล่าวว่า สำหรับเหตุการณ์ดังกล่าวตนได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ตร่วมกับเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนสภ.วิชิตลงพื้นที่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดในที่เกิดเหตุและเส้นทางที่คนร้ายหลบหนี และจะเร่งติดตามคนร้ายมาดำเนินคดีโดยเร็วที่สุด
หนุ่มไปรษณีย์ไทยสุดเจ๋ง มาส่งพัสดุ แถมช่วยลูกค้าไล่งู ไปรษณีย์ไทยไล่งู – วันที่ 2 พ.ค. เพจเฟซบุ๊ก FM91 Trafficpro บอกเล่าเรื่องราวประทับใจของหนุ่มไปรษณีย์ไทยที่มาส่งพัสดุที่บ้านหลังหนึ่ง แต่เจ้าของบ้านไม่สามารถออกมารับได้เพราะมีงูขวางประตูหน้าบ้านอยู่ หนุ่มไปรษณีย์รายดังกล่าวมีความกล้าหาญช่วยกันกับ อบต ไล่งูลงไปที่คลองได้สำเร็จ
“ไม่อาจนิ่งดูดาย? จนท.ไปรษณีย์ มาส่งไปรษณีย์บ้านหลังหนึ่ง เห็นลูกค้าออกจากบ้านไม่ได้ …เพราะมีงูขวางอยู่หน้าบ้าน เขาก็บอกพี่อย่าเข้ามาเดี๋ยวงูกัด!! มองเห็นงูเห่าขดตัวอยู่หน้าประตูบ้าน…เลยช่วยกันกับ อบต. ไล่งูไปท้ายคลอง”
หนุ่มแชร์ประสบการณ์ขึ้นแท็กซี่ เหลือบไปเห็นขวเหล้าขาว ทั้งกับแกล้ม แถมกลิ่นอับ ครบเซ็ต
เรื่องพีคแม่งเกิดขึ้นกับตัวอีกแล้ว ไม่คิดว่าจะเจอกับเหตุการณ์แบบนี้ เพราะมันไกลตัวมาก ปกติไม่ได้เป็นคนใช้บริการ Taxi มากเท่าไหร่ แต่ครั้งนี้ แจ็คพ๊อตป๊อกเก้าเด้ง เจ้าแดกรอบวงไปเลยจ้าสา!
เริ่มด้วยเราได้โบก Taxi สีชมพู ทะเบียน ทษ 1279 (ไม่รู้ชื่อคนขับ มันเอาป้ายเหลืองพับไว้) เรียกไปแอร์พอร์ตลิงค์ พญาไท
ทันทีที่ก้าวขึ้นรถก็ตกใจทันที กับ กลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ปนกันไปหมด ทั้งกลิ่นเหล้า กลิ่นอาหาร เลยลองสังเกต ด้านหน้ารถดู อื้มม ชัดละ ชัดเจน!! ขวดเหล้าขาว เสียบไว้ที่ข้างประตูฝั่งคนนั่ง และ ที่หนักกว่านั้น ดันไปเจอกองผ้า แต่ว่าลักษณะคล้ายคนมาก ลองเพ่งมองดีๆ เชี่ยย!! คนจริงๆนี่หว่า นอนขดอยู่ที่พักเท้า ไล่มองมาเรื่อยๆ ที่คอนโซนกลาง ตรงกระปุกเกียร์ เห็น “น้ำตกหมู” โอ้โห่ หิวเลย อยากขอกินด้วยสักคำนึง ถุยยย!! กับแกล้มพร้อมเลย นี่บ่ายโมงเองมึงรีบกินไปไหน
นั่งประมวลเรื่องราวอยู่ ว่าควรยังไงต่อดีวะ มันจะยังไงวะ ตื่นเต้นดีว่ะ แต่อ่ะกูนั่งต่อ ช่างมันเอาตัวเองรอดอยู่ละ มึงจะมาไงก็มา ไม่รู้ว่ามันจะเมา หรือไม่เมา เพราะไม่คิดจะเอ่ยปากถาม แต่ก็เดาได้ไม่ยาก แต่ที่หงุดหงิดคือ แม่งขับรถได้ส้นตีนม๊ากกก แย่กว่าหน้ากูอีก ทั้ง เบียด ปาด ไฟแดงแม่งเสือกเร่งเครื่อง ฮั่นแน่!! ไอ่เวรสุดท้ายเบรค เอี๊ยดด!! เพราะเลี้ยวไปไม่ทันไฟเขียวที่แยกไฟแดงตรงป้อมตำรวจ แยก จามจุรีพอดี เท่านั้นแหละ เออกูยอม เพราะไม่รู้ว่าจะพากูไปตายอีกทีแยกไหน เลยจ่ายตังแม่งตรงนั้น 100 เสือกไม่มีทอนอีก สุดท้ายอะช่างมันเข้าป้อมไปแจ้งตำรวจให้สกัดจับ เพราะไม่อยากให้ ขับไปรับคนอื่นต่อในสภาพแบบนั้น ตอนนี้ไม่ทราบว่าผลเป็นไงบ้าง ฝากคุณตำรวจด้วยครับ??
คือสิ่งที่มึงทำมันผิดคับพี่ แค่อยากบอกว่ามันอันตราย ทั้งตัวเองและคนอื่นบนถนน และกูที่เป็นผดส. รวมไปถึง พี่แท็กซี่อื่นๆด้วยนะ แล้วถ้าเป็นคุณหากเจอเหตุการณ์แบบนี้จะทำอย่างไร?”
โดยเจ้าหน้าที่ได้ตรวจวัดสารเสพติดในร่างกายของ นายอภิชาต ปรากฏผลเป็นลบ ไม่พบสารเสพติดในร่างกาย และจากการสอบสวนเบื้องต้น นายอภิชาตรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อกล่าวหา ขับรถโดยประมาท ทำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และส่งตัวดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป ขณะที่ศพของ น.ส.นัถทิชชา อัตตะชีวะ ผู้เสียชีวิตนั้น ล่าสุด นางปิยะนันท์ อัตตะชีวะ มารดาผู้เสียชีวิตได้เดินทางพบพนักงานสอบสวนและติดต่อขอรับศพกลับไปบำเพ็ญกุศลทางศาสนาแล้ว